ก้าวสู่ปี 2026: แนวทางยกระดับงานสอบบัญชีเพื่อพร้อมรับทุกการเปลี่ยนแปลง

Audit Quality

ก้าวสู่ปี 2026: แนวทางยกระดับงานสอบบัญชีเพื่อพร้อมรับทุกการเปลี่ยนแปลง

เผยแพร่เมื่อ 13 Dec 2025 • โดย A&A Office • 7 min read

ปี 2026 เป็นอีกปีที่ความคาดหวังต่อคุณภาพในการจัดทำงบการเงินและงานสอบบัญชีสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งจากการเปลี่ยนผ่านด้านมาตรฐาน รายงานที่ต้องให้ข้อมูลเชิงลึกได้มากกว่าเดิม และความเสี่ยงรูปแบบใหม่ที่เป็นผลพวงจากการดำเนินธุรกิจด้วยข้อมูลและระบบดิจิทัล

A&A Office จึงกำหนดแนวทางการทำงานปี 2026 ภายใต้โจทย์เดียวกันกับองค์กรชั้นนำต่าง ๆ

Audit Compass 2026: โจทย์สำคัญของงานตรวจสอบในยุคใหม่

ทำอย่างไรให้งานตรวจสอบ “สะท้อนให้เห็นความเสี่ยงที่แท้จริง” และ “สร้างความเชื่อมั่นได้” อย่างเป็นระบบ

1
เห็นความเสี่ยงเร็วขึ้น ตั้งต้นจาก Risk Assessment ที่คม และเชื่อมถึงแผนตรวจ
2
หลักฐานชัดขึ้น ยกระดับการเก็บและอธิบาย evidence ให้ตรวจสอบย้อนกลับได้
3
ทำงานตรวจสอบได้มากขึ้น ย้ายงานพื้นฐานสู่ดิจิทัลบนมาตรฐานเดียวกันทั้งทีม
กรอบคิดนี้ช่วยให้ผู้บริหาร คณะกรรมการ และผู้สอบบัญชี “คุยเรื่องคุณภาพ” ด้วยภาพเดียวกัน ไม่ใช่แค่ตรวจครบ แต่ตรวจถูกจุด

บทความนี้สรุป 6 ประเด็นสำคัญที่เราใช้เป็นกรอบคิดและแนวทางปฏิบัติ เพื่อยกระดับคุณภาพงานตรวจสอบ พร้อมแนวทางที่องค์กรสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที


1) ทำ Risk-Based Audit ให้เป็น “วิธีทำงานจริง” ไม่ใช่แค่คำที่อยู่ในคู่มือ

Risk-Based Audit ที่มีคุณภาพเริ่มจากการประเมินความเสี่ยงตั้งแต่ต้นงาน และใช้ความเสี่ยงนั้นเป็นตัวกำหนด “จะตรวจอะไร–ลึกแค่ไหน–ใช้หลักฐานแบบใด” มากกว่าการตรวจสอบตามรายการหรือสุ่มเอกสารแบบเดิม

  • ยกระดับการประเมินความเสี่ยงเชิงธุรกิจและเชิงงบการเงินให้ชัดตั้งแต่ช่วงวางแผน
  • เชื่อมการประเมิน Internal Control / ITGC เข้ากับแผนตรวจสอบอย่างเป็นระบบ
  • ใช้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์เพื่อช่วยระบุจุดเสี่ยง (High-Risk Areas) ให้แม่นยำขึ้น
  • ลดสัดส่วนการตรวจสอบแบบสุ่ม และเพิ่มการตรวจเชิงระบบตามความเสี่ยงให้มากขึ้น
แนวทางสำหรับองค์กร

หากภาระงานตรวจสอบ “ไม่ลดลง” ทั้งที่ทีมพยายามเพิ่มประสิทธิภาพ อาจเป็นสัญญาณว่า Risk Assessment ยังไม่คมพอ ทำให้ตรวจกว้างเกินจำเป็นจนพลาดจุดที่ควรลงลึกจริง ๆ

2) เปลี่ยนผ่านสู่ขั้นตอนการทำงานแบบดิจิทัล: ทำให้ “มาตรฐานการทำงาน” ชัดก่อน

การใช้เทคโนโลยีในงานตรวจสอบไม่จำเป็นต้องเริ่มจากเครื่องมือที่ซับซ้อนที่สุดเสมอไป แต่ควรเริ่มจากการทำให้งานพื้นฐาน “เป็นมาตรฐานเดียวกัน” เพื่อให้คุณภาพดีขึ้นและตรวจสอบย้อนกลับได้ง่าย

  • ขยับจากเอกสารแบบเดิมสู่ Digital Working Paper อย่างเป็นระบบ
  • ออกแบบการใช้ MS Excel / Data sheet และเครื่องมือพื้นฐานให้เป็นมาตรฐานกลางทั้งสำนักงาน
  • ปรับการจัดเก็บเอกสารสู่ Electronic file / Cloud-based filing เพื่อความปลอดภัยและค้นหาได้ง่าย
  • ใช้ Excel-based analytics เพื่อสนับสนุน Risk-Based Audit
  • เตรียมโครงสร้างสำหรับการเชื่อม ERP / Audit software ในอนาคต
แนวทางสำหรับองค์กร

ก่อนลงทุนเครื่องมือใหม่ ให้เริ่มจาก “มาตรฐานข้อมูลและเอกสาร” เช่น การตั้งชื่อไฟล์ เวอร์ชัน และโครงสร้างการจัดเก็บ เพราะเทคโนโลยีจะช่วยได้จริงก็ต่อเมื่อข้อมูลพร้อมและตรวจสอบย้อนหลังได้

3) ISQM ไม่ใช่ภาระเอกสาร แต่คือระบบที่ทำให้คุณภาพ “เกิดซ้ำได้”

มาตรฐานด้านการบริหารคุณภาพอย่าง ISQM ช่วยลดการพึ่งพาคน ทำให้งานมีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอจากระบบ ทั้งในมิติของความเป็นอิสระ จรรยาบรรณ และการทบทวนคุณภาพงานตรวจสอบ

  • ทบทวน / ปรับปรุงระบบตาม ISQM ให้ครอบคลุมทุกกระบวนการ
  • เพิ่มความเข้มแข็งด้าน Independence & Ethics
  • พัฒนา Engagement Quality Review (EQR) ให้เข้มงวดขึ้น
  • ติดตามและแก้ไขข้อบกพร่องเชิงระบบอย่างเป็นรูปธรรม
แนวทางสำหรับองค์กร

ถ้าองค์กรเจอข้อผิดพลาดเดิมซ้ำ ๆ การแก้รายครั้งอาจไม่พอ การยกระดับ “ระบบคุณภาพ” ช่วยให้คุณภาพเกิดซ้ำได้ ลดการพึ่งพาคน และลดความเสี่ยงเชิงระบบในระยะยาว

4) เตรียมพร้อมสู่มาตรฐานการรายงานทางการเงินยุคใหม่: ประเด็นที่มักพบข้อผิดพลาดจริง

งานที่ท้าทายไม่ใช่แค่การ “รู้” มาตรฐาน แต่คือความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเพื่อนำไปสู่การแปลงมาตรฐานให้เข้ากับธุรกิจ และการตัดสินใจทางบัญชี โดยเฉพาะเรื่องประมาณการและดุลยพินิจ (Estimation & Judgment)

  • การประยุกต์ใช้ TFRS 18 / TFRS 15 / TFRS 16 ให้สอดคล้องกับธุรกิจ
  • ยกระดับการวิเคราะห์เรื่องประมาณการและดุลยพินิจ เช่น ECL, Provision, Impairment
  • สนับสนุนการจัดทำงบการเงินที่โปร่งใส เปรียบเทียบได้ และน่าเชื่อถือ
แนวทางสำหรับองค์กร

ความเสี่ยงมักอยู่ที่ “สมมติฐานและเหตุผลประกอบการตัดสินใจ” มากกว่าตัวเลขสุดท้าย การเตรียมเอกสารรองรับ Estimation/Judgment ให้ครบ จะช่วยให้การตรวจสอบชัดขึ้นและลดการย้อนกลับแก้ไข

5) พัฒนาคนให้ทัน: แม้เครื่องมือจะช่วยได้มาก แต่ความรับผิดชอบยังอยู่ที่ผู้สอบบัญชี

การทำงานแบบ risk-based และการใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต้องอาศัยทักษะที่ต่อยอดจากพื้นฐานที่ดี ทั้งการประเมินความเสี่ยง การวิเคราะห์ข้อมูล และความเข้าใจระบบดิจิทัลต่าง ๆ

  • เสริมทักษะด้าน Risk Assessment, Data Analytics, IT Audit
  • ทำ Career Path ให้ชัดเพื่อรักษาความต่อเนื่องของคุณภาพงาน
  • พัฒนาภาวะผู้นำสำหรับหัวหน้างาน / ผู้จัดการ
  • เสริมวัฒนธรรมด้านความรับผิดชอบ จริยธรรม และความเป็นมืออาชีพ
แนวทางสำหรับองค์กร

การใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์และทำงานแบบ Risk-Based ต้องอาศัยทักษะที่ต่อยอดจากพื้นฐาน หากทีมยังไม่มั่นใจเรื่อง Risk Assessment/IT/Analytics ควรวางแผนพัฒนาคนให้ทันก่อน เพื่อให้คุณภาพยืนระยะได้จริง

6) โตแบบเน้น “คุณภาพ” มากกว่าปริมาณ: เมื่อความน่าเชื่อถือคือสินทรัพย์ของทั้งสองฝ่าย

สำหรับงานสอบบัญชี การเติบโตที่ยั่งยืนมักไม่ใช่การเพิ่มจำนวนลูกค้าอย่างรวดเร็ว แต่คือการสร้างความสัมพันธ์แบบมืออาชีพที่ต่างฝ่ายต่างเห็นความคาดหวังชัดเจน และทำงานร่วมกันบนความโปร่งใส

  • ขยายฐานลูกค้าที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน / งานที่ซับซ้อนและท้าทาย
  • ยกระดับสู่บทบาท Trusted Professional Partner
  • พัฒนางานให้คำปรึกษาเรื่อง Internal Control, Risk Management, Governance
  • สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าและพันธมิตร
แนวทางสำหรับองค์กร

ความน่าเชื่อถือเกิดจากความคาดหวังที่ชัดและความโปร่งใสในทุกขั้นตอน การทำงานร่วมกับผู้สอบบัญชีแบบ “เห็นตรงกันเรื่องความเสี่ยงและหลักฐาน” ช่วยให้ปิดงบได้มั่นใจ และความสัมพันธ์ยั่งยืนกว่าเดิม

สรุป: ปี 2026 คือปีของ “ระบบ–ข้อมูล–ธรรมาภิบาล” ที่ต้องเชื่อมกันจริง

งานตรวจสอบที่น่าเชื่อถือในยุคใหม่ต้องทำให้ความเสี่ยงถูกมองเห็นเร็วขึ้น หลักฐานชัดขึ้น และการทำงานตรวจสอบย้อนกลับได้จริง พร้อมระบบคุณภาพที่ทำให้มาตรฐานคงอยู่ในทุกงาน

สนใจทบทวนความพร้อมก่อนปิดงบ?

หากองค์กรของคุณกำลังวางแผนตรวจสอบปีถัดไป และต้องการทบทวนความพร้อมด้านเอกสาร จุดเสี่ยงสำคัญ หรือแนวทางเสริมระบบควบคุมภายในให้รองรับ Risk-Based Audit มากขึ้น เราพร้อมให้คำปรึกษาเชิงปฏิบัติ เพื่อให้องค์กรของคุณเติบโตอย่างมั่นคงและตรวจสอบได้

ขอคำปรึกษา
แชร์: