ก้าวสู่ปี 2026: แนวทางยกระดับงานสอบบัญชีเพื่อพร้อมรับทุกการเปลี่ยนแปลง
ปี 2026 เป็นอีกปีที่ความคาดหวังต่อคุณภาพในการจัดทำงบการเงินและงานสอบบัญชีสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งจากการเปลี่ยนผ่านด้านมาตรฐาน รายงานที่ต้องให้ข้อมูลเชิงลึกได้มากกว่าเดิม และความเสี่ยงรูปแบบใหม่ที่เป็นผลพวงจากการดำเนินธุรกิจด้วยข้อมูลและระบบดิจิทัล
A&A Office จึงกำหนดแนวทางการทำงานปี 2026 ภายใต้โจทย์เดียวกันกับองค์กรชั้นนำต่าง ๆ
Audit Compass 2026: โจทย์สำคัญของงานตรวจสอบในยุคใหม่
ทำอย่างไรให้งานตรวจสอบ “สะท้อนให้เห็นความเสี่ยงที่แท้จริง” และ “สร้างความเชื่อมั่นได้” อย่างเป็นระบบ
บทความนี้สรุป 6 ประเด็นสำคัญที่เราใช้เป็นกรอบคิดและแนวทางปฏิบัติ เพื่อยกระดับคุณภาพงานตรวจสอบ พร้อมแนวทางที่องค์กรสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที
1) ทำ Risk-Based Audit ให้เป็น “วิธีทำงานจริง” ไม่ใช่แค่คำที่อยู่ในคู่มือ
Risk-Based Audit ที่มีคุณภาพเริ่มจากการประเมินความเสี่ยงตั้งแต่ต้นงาน และใช้ความเสี่ยงนั้นเป็นตัวกำหนด “จะตรวจอะไร–ลึกแค่ไหน–ใช้หลักฐานแบบใด” มากกว่าการตรวจสอบตามรายการหรือสุ่มเอกสารแบบเดิม
- ยกระดับการประเมินความเสี่ยงเชิงธุรกิจและเชิงงบการเงินให้ชัดตั้งแต่ช่วงวางแผน
- เชื่อมการประเมิน Internal Control / ITGC เข้ากับแผนตรวจสอบอย่างเป็นระบบ
- ใช้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์เพื่อช่วยระบุจุดเสี่ยง (High-Risk Areas) ให้แม่นยำขึ้น
- ลดสัดส่วนการตรวจสอบแบบสุ่ม และเพิ่มการตรวจเชิงระบบตามความเสี่ยงให้มากขึ้น
หากภาระงานตรวจสอบ “ไม่ลดลง” ทั้งที่ทีมพยายามเพิ่มประสิทธิภาพ อาจเป็นสัญญาณว่า Risk Assessment ยังไม่คมพอ ทำให้ตรวจกว้างเกินจำเป็นจนพลาดจุดที่ควรลงลึกจริง ๆ
2) เปลี่ยนผ่านสู่ขั้นตอนการทำงานแบบดิจิทัล: ทำให้ “มาตรฐานการทำงาน” ชัดก่อน
การใช้เทคโนโลยีในงานตรวจสอบไม่จำเป็นต้องเริ่มจากเครื่องมือที่ซับซ้อนที่สุดเสมอไป แต่ควรเริ่มจากการทำให้งานพื้นฐาน “เป็นมาตรฐานเดียวกัน” เพื่อให้คุณภาพดีขึ้นและตรวจสอบย้อนกลับได้ง่าย
- ขยับจากเอกสารแบบเดิมสู่ Digital Working Paper อย่างเป็นระบบ
- ออกแบบการใช้ MS Excel / Data sheet และเครื่องมือพื้นฐานให้เป็นมาตรฐานกลางทั้งสำนักงาน
- ปรับการจัดเก็บเอกสารสู่ Electronic file / Cloud-based filing เพื่อความปลอดภัยและค้นหาได้ง่าย
- ใช้ Excel-based analytics เพื่อสนับสนุน Risk-Based Audit
- เตรียมโครงสร้างสำหรับการเชื่อม ERP / Audit software ในอนาคต
ก่อนลงทุนเครื่องมือใหม่ ให้เริ่มจาก “มาตรฐานข้อมูลและเอกสาร” เช่น การตั้งชื่อไฟล์ เวอร์ชัน และโครงสร้างการจัดเก็บ เพราะเทคโนโลยีจะช่วยได้จริงก็ต่อเมื่อข้อมูลพร้อมและตรวจสอบย้อนหลังได้
3) ISQM ไม่ใช่ภาระเอกสาร แต่คือระบบที่ทำให้คุณภาพ “เกิดซ้ำได้”
มาตรฐานด้านการบริหารคุณภาพอย่าง ISQM ช่วยลดการพึ่งพาคน ทำให้งานมีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอจากระบบ ทั้งในมิติของความเป็นอิสระ จรรยาบรรณ และการทบทวนคุณภาพงานตรวจสอบ
- ทบทวน / ปรับปรุงระบบตาม ISQM ให้ครอบคลุมทุกกระบวนการ
- เพิ่มความเข้มแข็งด้าน Independence & Ethics
- พัฒนา Engagement Quality Review (EQR) ให้เข้มงวดขึ้น
- ติดตามและแก้ไขข้อบกพร่องเชิงระบบอย่างเป็นรูปธรรม
ถ้าองค์กรเจอข้อผิดพลาดเดิมซ้ำ ๆ การแก้รายครั้งอาจไม่พอ การยกระดับ “ระบบคุณภาพ” ช่วยให้คุณภาพเกิดซ้ำได้ ลดการพึ่งพาคน และลดความเสี่ยงเชิงระบบในระยะยาว
4) เตรียมพร้อมสู่มาตรฐานการรายงานทางการเงินยุคใหม่: ประเด็นที่มักพบข้อผิดพลาดจริง
งานที่ท้าทายไม่ใช่แค่การ “รู้” มาตรฐาน แต่คือความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเพื่อนำไปสู่การแปลงมาตรฐานให้เข้ากับธุรกิจ และการตัดสินใจทางบัญชี โดยเฉพาะเรื่องประมาณการและดุลยพินิจ (Estimation & Judgment)
- การประยุกต์ใช้ TFRS 18 / TFRS 15 / TFRS 16 ให้สอดคล้องกับธุรกิจ
- ยกระดับการวิเคราะห์เรื่องประมาณการและดุลยพินิจ เช่น ECL, Provision, Impairment
- สนับสนุนการจัดทำงบการเงินที่โปร่งใส เปรียบเทียบได้ และน่าเชื่อถือ
ความเสี่ยงมักอยู่ที่ “สมมติฐานและเหตุผลประกอบการตัดสินใจ” มากกว่าตัวเลขสุดท้าย การเตรียมเอกสารรองรับ Estimation/Judgment ให้ครบ จะช่วยให้การตรวจสอบชัดขึ้นและลดการย้อนกลับแก้ไข
5) พัฒนาคนให้ทัน: แม้เครื่องมือจะช่วยได้มาก แต่ความรับผิดชอบยังอยู่ที่ผู้สอบบัญชี
การทำงานแบบ risk-based และการใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต้องอาศัยทักษะที่ต่อยอดจากพื้นฐานที่ดี ทั้งการประเมินความเสี่ยง การวิเคราะห์ข้อมูล และความเข้าใจระบบดิจิทัลต่าง ๆ
- เสริมทักษะด้าน Risk Assessment, Data Analytics, IT Audit
- ทำ Career Path ให้ชัดเพื่อรักษาความต่อเนื่องของคุณภาพงาน
- พัฒนาภาวะผู้นำสำหรับหัวหน้างาน / ผู้จัดการ
- เสริมวัฒนธรรมด้านความรับผิดชอบ จริยธรรม และความเป็นมืออาชีพ
การใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์และทำงานแบบ Risk-Based ต้องอาศัยทักษะที่ต่อยอดจากพื้นฐาน หากทีมยังไม่มั่นใจเรื่อง Risk Assessment/IT/Analytics ควรวางแผนพัฒนาคนให้ทันก่อน เพื่อให้คุณภาพยืนระยะได้จริง
6) โตแบบเน้น “คุณภาพ” มากกว่าปริมาณ: เมื่อความน่าเชื่อถือคือสินทรัพย์ของทั้งสองฝ่าย
สำหรับงานสอบบัญชี การเติบโตที่ยั่งยืนมักไม่ใช่การเพิ่มจำนวนลูกค้าอย่างรวดเร็ว แต่คือการสร้างความสัมพันธ์แบบมืออาชีพที่ต่างฝ่ายต่างเห็นความคาดหวังชัดเจน และทำงานร่วมกันบนความโปร่งใส
- ขยายฐานลูกค้าที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน / งานที่ซับซ้อนและท้าทาย
- ยกระดับสู่บทบาท Trusted Professional Partner
- พัฒนางานให้คำปรึกษาเรื่อง Internal Control, Risk Management, Governance
- สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าและพันธมิตร
ความน่าเชื่อถือเกิดจากความคาดหวังที่ชัดและความโปร่งใสในทุกขั้นตอน การทำงานร่วมกับผู้สอบบัญชีแบบ “เห็นตรงกันเรื่องความเสี่ยงและหลักฐาน” ช่วยให้ปิดงบได้มั่นใจ และความสัมพันธ์ยั่งยืนกว่าเดิม
สรุป: ปี 2026 คือปีของ “ระบบ–ข้อมูล–ธรรมาภิบาล” ที่ต้องเชื่อมกันจริง
งานตรวจสอบที่น่าเชื่อถือในยุคใหม่ต้องทำให้ความเสี่ยงถูกมองเห็นเร็วขึ้น หลักฐานชัดขึ้น และการทำงานตรวจสอบย้อนกลับได้จริง พร้อมระบบคุณภาพที่ทำให้มาตรฐานคงอยู่ในทุกงาน
สนใจทบทวนความพร้อมก่อนปิดงบ?
หากองค์กรของคุณกำลังวางแผนตรวจสอบปีถัดไป และต้องการทบทวนความพร้อมด้านเอกสาร จุดเสี่ยงสำคัญ หรือแนวทางเสริมระบบควบคุมภายในให้รองรับ Risk-Based Audit มากขึ้น เราพร้อมให้คำปรึกษาเชิงปฏิบัติ เพื่อให้องค์กรของคุณเติบโตอย่างมั่นคงและตรวจสอบได้





